เศรษฐศาสตร์

“ประชุมดาวอส” ยาหมดอายุ! “ท๊อป บิทคับ”

“ประชุมดาวอส” ยาหมดอายุ! “ท๊อป บิทคับ” เสนอหน้าพูดความโปร่งใส แต่ บ.ตัวเองไม่ส่งงบการเงิน

ประชุมสภาเศรษฐกิจโลกที่ดาวอส ส่งสัญญาณหมดความสำคัญ ผู้นำมหาอำนาจเมินเข้าร่วม กลายเป็นเวที่ของพวกนายทุนโลกตะวันตกมาพูดคุยกันกำหนดวาระโลกเพื่อประโยชน์ให้ตัวเอง โดนโจมตีจากภาคประชาชน-เอ็นจีโอว่าพูดอย่างทำอย่าง “ท็อป บิทคับ” เข้าร่วมพูดถึงความโปร่งใสของคริปโตฯ แต่บริษัทตัวเองไม่ส่งงบการเงินปี 64

 เศรษฐศาสตร์

ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” วันศุกร์ที่ 27 มกราคม 2566 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้กล่าวถึงการประชุมประจำปีของ สภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) หรือ การประชุมดาวอส ครั้งที่ 53 ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ระหว่าง วันที่ 16-20 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏว่าผู้นำประเทศใหญ่ ๆ ของโลก มีแค่นายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนีไปร่วมงานเพียงคนเดียว ขณะที่ผู้นำกลุ่ม G7 อย่างฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น อิตาลี และ แคนาดา ไม่มีใครให้ความสนใจเดินทางไปร่วมประชุม แตกต่างจากการประชุมครั้งก่อน ๆ หน้านั้น เช่น ในปี 2561 ที่ผู้นำประเทศเศรษฐกิจมา 6 ใน 7 คน

อย่างไรก็ตาม แม่งานที่เป็นเจ้าภาพอย่างนางอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป (EU) ก็ยังเดินหน้าประชุม WEF 2023 ครั้งที่ 53 นี้ภายใต้ธีมหลักว่า“ความร่วมมือในโลกที่แตกเป็นเสี่ยง (Cooperation in a Fragmented World)”และธีมที่สองคือแนวทางที่โลกจะเดินไปยังอนาคต มีการประชุมหารือปัญหาที่กำลังส่งผลกระทบต่อทั้งโลก อย่างเช่น ปัญหาเงินเฟ้อค่าครองชีพสูง วิกฤติพลังงาน สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ปัญหาความมั่นคงทางอาหาร และปัญหาเกี่ยวกับสภาพอากาศ รวมทั้งปัญหาการย้ายการลงทุนจากยุโรปไปอเมริกาและจีน การขาดแคลนพลังงานที่ต้องพึ่งรัสเซียและวัตถุดิบแร่หายาก 98%ที่ต้องพึ่งจีน

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม คลิ๊กเลย >> นักวิเคราะห์คาดเศรษฐกิจยูโรโซนเสี่ยงถดถอยรุนแรงและฟื้นตัวช้า

เศรษฐศาสตร์

นักวิเคราะห์คาดเศรษฐกิจยูโรโซนเสี่ยงถดถอยรุนแรงและฟื้นตัวช้า

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เศรษฐกิจยูโรโซนมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยนักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งนี้จะไม่เกิดขึ้นแบบตื้นเขิน

รายงานระบุว่า ยูโรโซนตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมาก นับตั้งแต่รัสเซียยกพลบุกโจมตียูเครนเมื่อเดือนก.พ. โดยการออกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย การยุติการนำเข้าก๊าซของรัสเซียแบบกะทันหัน และความจำเป็นในการสนับสนุนทางการเงินแก่ภาคครัวเรือนและบริษัทต่าง ๆ ที่เผชิญปัญหาจากวิกฤตพลังงาน ได้บั่นทอนแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซน หลังจากที่ช่วงต้นปีนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะขยายตัวเร็วกว่าสหรัฐ

นายโฮลเกอร์ ชมีดิง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำธนาคารเบเรนเบิร์กให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีเมื่อช่วงต้นเดือนพ.ย.ว่า “ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงอย่างมาก จนภาวะเศรษฐกิจถดถอยไม่น่าจะเกิดขึ้นอย่างตื้นเขิน”

เศรษฐศาสตร์

ข้อมูลจากคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) แสดงให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ย. แม้หลังจากนั้นจะกระเตื้องขึ้นเล็กน้อย แต่ภาคครัวเรือนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตและฐานะทางการเงินส่วนตัว

ทั้งนี้ นายชมีดิง กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่แท้จริงของยูโรโซนที่ได้รับการปรับค่าเงินเฟ้อแล้วนั้น จะหดตัวอย่างหนักในไตรมาสที่ 4/2565 และไตรมาสแรกของปี 2566 โดยหดตัวสะสม 1.7%

อนึ่ง ภาวะเศรษฐกิจถดถอยหมายถึง เศรษฐกิจหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน